Skip to Content

ครอบคลุมทุกงานหลักในธุรกิจคุณ! 

Retail Standard Package 1,999 บาท ต่อเดือน

ถ้าคุณกำลังมองหาระบบ ERP ที่ ใช้งานง่าย – ครบเครื่อง – ขยายต่อได้

 

ระบบงานขายสินค้า
(Sale Management)

1. การจัดการลูกค้า (Customer Management)

  • สร้างข้อมูลลูกค้าได้จากเลขทะเบียนนิติบุคคล
  • บันทึกข้อมูลลูกค้า เช่น ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, และที่อยู่
  • จัดหมวดหมู่ลูกค้าตามประเภท เช่น ลูกค้าใหม่, ลูกค้าประจำ, หรือกลุ่มเป้าหมาย
  • บันทึกประวัติการติดต่อและการซื้อขายของลูกค้า

2. การจัดการใบเสนอราคา (Quotations Management)

  • รองรับการสร้างใบเสนอราคาจาก เทมเพลต ที่สามารถตั้งรายการสินค้าและราคาขายล่วงหน้าได้
  • ระบบ Pricelists ช่วยตั้งค่าราคาเฉพาะลูกค้า หรือกลุ่มลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น
  • เพิ่ม กฎระเบียบและเงื่อนไขการขาย ในใบเสนอราคา เช่น นโยบายการคืนสินค้า เพื่อให้ลูกค้ารับทราบก่อนยืนยันการสั่งซื้อ

3. การจัดการใบสั่งขาย (Sales Order Management)

  • สามารถทยอยส่งสินค้าได้จนกว่าจะครบตามคำสั่งซื้อ
  • ยกเลิกคำสั่งซื้อได้ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
  • สร้างรายการสินค้าค้างส่งอัตโนมัติสำหรับติดตามในครั้งถัดไป
  • รองรับการตั้งค่าที่อยู่ใบสั่งซื้อและที่อยู่จัดส่งแยกกัน

4. การจัดการเอกสาร (Document Management)

  • ออกเอกสารสำคัญ เช่น ใบสั่งขาย (Sales Order), ใบส่งของ/ใบกำกับภาษี (Invoice/Tax Invoice)
  • ส่งใบเสนอราคาผ่านอีเมลโดยตรง พร้อมติดตามสถานะการเปิดอ่าน

​ 5. ระบบโปรโมชั่นและส่วนลด (Discount & Loyalty Programs)

  • รองรับการสร้าง คูปองส่วนลด และโปรโมชั่นเฉพาะกิจกรรมหรือลูกค้า
  • จัดการระบบสะสมคะแนน (Loyalty) สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าต่อเนื่อง

​6. ระบบคำนวณค่าขนส่ง (Shipping Calculation)

  • รองรับการคำนวณค่าขนส่งอัตโนมัติตามผู้ให้บริการโลจิสติกส์ เช่น DHL หรือ FedEx
  • เพิ่มราคาขนส่งในใบสั่งซื้อหรือใบเสนอราคาได้

​ 7. Upsell & Cross-Sell กำหนดเงื่อนไขสินค้าที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบแนะนำสินค้าราคาสูงขึ้นหรือสินค้าร่วมตามที่ต้องการ

  • Upsell (การขายสินค้าราคาสูงกว่า) เป็นการแนะนำสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น หรือมีคุณสมบัติที่ดีกว่าให้กับลูกค้าเมื่อพวกเขากำลังตัดสินใจซื้อสินค้า
  • Cross-Sell (การขายสินค้าร่วม) การแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือสินค้าร่วมที่ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มเติมได้เพื่อเสริมการใช้งานของสินค้าที่ซื้อ

​ 8. การเก็บประวัติการแก้ไขเอกสาร (Document History)

  • เก็บประวัติการแก้ไขเอกสารใบเสนอราคา (Quotations) และใบสั่งขาย (Sale Orders)
  • ช่วยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง เช่น วันที่แก้ไข ผู้แก้ไข และเนื้อหาเดิมที่ถูกเปลี่ยนเพิ่มความโปร่งใสและลดข้อโต้แย้งระหว่างทีมงาน

9. รายงานการขาย (Sales Reports)

  • แสดงรายงานยอดขายแยกตามลูกค้า, สินค้า,หรือกลุ่มสินค้า
  • แสดงรายงานยอดขายเปรียบเทียบ เช่น รายเดือน,รายไตรมาส, และรายปี

ระบบจัดการคลังสินค้า
(Inventory Management)

1.การจัดการคลังและตำแหน่งสินค้า (Warehouse & Locations)

  • รองรับการจัดการคลังสินค้าหลายแห่ง พร้อมตำแหน่งเก็บสินค้า
  • ระบบติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์

2.การจัดการกระบวนการจัดเก็บ (Stock Operations)

  • รองรับการจัดการเคลื่อนย้ายสินค้าตามหลัก FIFO, LIFO, FEFO
  • บันทึกและติดตามสินค้าโดยใช้หมายเลข Lot/Serial

3.การปรับยอดคลังสินค้า (Inventory Adjustments)

  • รองรับการปรับยอดคลังสินค้าในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด หรือต้องการปรับตามรอบนับสต็อก
  • การเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังหรือระหว่างคลัง (Internal Transfers)
  • รองรับการเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังหรือระหว่างคลัง เพื่อจัดการการเคลื่อนย้ายที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่น

4.การบันทึกประวัติเอกสาร (Document History)

  • ระบบบันทึกและแสดงประวัติการแก้ไขเอกสาร เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง

5.การพิมพ์เอกสารที่กำหนดเอง (Custom Document Printing)

  • รองรับการพิมพ์เอกสารส่งของ/ รับของตามรูปแบบที่กำหนด
  • รองรับการพิมพ์เอกสารแปะหลังพัสดุ

6.การจัดการบาร์โค้ด (Barcode Management)

  • รองรับการพิมพ์ Label Barcode สำหรับสินค้าแต่ละชิ้น ช่วยในการติดตามและตรวจสอบสินค้าอย่างรวดเร็ว
  • รายงานสินค้าคงคลังปัจจุบัน,การเคลื่อนย้ายสินค้า, และมูลค่าสินค้าคงเหลือ

7.การจัดการต้นทุนเพิ่มเติม (Landed Costs Management)

  • รายงานต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนต่อหน่วย
  • ระบบคำนวณต้นทุนสินค้าเพิ่มเติม เช่น ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม และค่าภาษีเพื่อให้การคำนวณต้นทุนสินค้าเป็นไปอย่างครบถ้วน

8.รายงานการจัดเติมสินค้า (Replenishment Reports)

  • รายงานการจัดเติมสินค้า (Replenishment) โดยแสดงความต้องการเติมสินค้าในแต่ละคลัง เพื่อช่วยในการจัดการสต็อกให้มีประสิทธิภาพ

9.การระบุ Description สำหรับ Receipts และ Delivery Orders

  • รองรับการระบุคำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับการรับสินค้า (Receipts) และการจัดส่งสินค้า (Delivery Orders) ช่วยให้การจัดการเอกสารทั้งสองประเภทมีความชัดเจนและครอบคลุม

10.การระบุ Description สำหรับ Receipts และ Delivery Orders

  • รองรับการระบุ HS Code สำหรับสินค้า เพื่อให้สามารถจัดการภาษี, การส่งออกและการรายงานตามมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศได้อย่างถูกต้อง

11.การรายงานคลังสินค้า (Inventory Reports)

  • รายงานสินค้าคงคลังปัจจุบัน, การเคลื่อนย้ายสินค้า, และมูลค่าสินค้าคงเหลือ
  • รายงานต้นทุนการขนส่ง และต้นทุนต่อหน่วย

ระบบบัญชี
(Accounting Management)

1.การออกเอกสารบัญชีฝั่ง "รับชำระ (Customer Payment)" อย่างอัตโนมัติ

  • สร้างและส่งใบแจ้งหนี้ลูกค้า (Customer Invoices) และ ใบเสร็จรับเงิน (Customer Receipts) ได้โดยอัตโนมัติ เอกสารจะถูกสร้างจากการขายสินค้า/บริการ หรือจากใบสั่งขาย (Sales Order)
  • ระบบช่วยสร้างเลขที่เอกสารเรียงลำดับอัตโนมัติตามรูปแบบที่กำหนด เช่น INV/2025/0001, RCPT/2025/0001 ฯลฯ
  • ตั้งค่ารูปแบบเอกสารเป็นภาษาไทย หรือปรับแต่งให้ตรงกับรูปแบบของกิจการ โลโก้บริษัท, หัวเอกสาร, คำอธิบายสินค้า, ที่อยู่ลูกค้า ฯลฯ
  • รองรับการตั้งค่าภาษีขาย (VAT Output) อัตโนมัติในเอกสาร ระบบคำนวณภาษี 7%, 0% หรือไม่มีภาษี ได้อัตโนมัติตามสินค้า/บริการ , รองรับการพิมพ์/ส่งใบกำกับภาษี


2.การออกเอกสารบัญชีฝั่ง "จ่ายชำระ (Vendor Payment)" อย่างอัตโนมัติ


  • สร้างใบเรียกเก็บจากผู้ขาย (Vendor Bills) อัตโนมัติจากใบสั่งซื้อ (Purchase Order) ระบบช่วยออกเอกสารพร้อมบันทึกภาษีและบัญชีโดยอัตโนมัติ
  • ออกใบจ่ายเงิน (Vendor Payment) เพื่อบันทึกการชำระเงินให้กับผู้ขาย รองรับหลายช่องทาง เช่น โอนเงิน เช็ค เงินสด ฯลฯ
  • ระบบช่วยสร้างเลขที่เอกสารเรียงลำดับอัตโนมัติ เช่น VB/2025/0001, PAY/2025/0001 ตามรูปแบบที่กำหนด
  • สามารถตั้งค่ารูปแบบเอกสารเป็นภาษาไทย แสดงชื่อเอกสาร, รายละเอียดสินค้า, ภาษี ฯลฯ เป็นภาษาไทยได้
  • ตั้งค่าภาษีซื้อ (VAT Input) อัตโนมัติในเอกสาร รองรับภาษี 7%, 0% และกรณีที่ไม่มีภาษี พร้อมรองรับการหัก ณ ที่จ่าย (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย Vendor)
  • แนบเอกสารประกอบ เช่น ใบกำกับภาษีหรือใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย แนบ PDF, รูปภาพ